| คุณมีปัญหา
1 ใน 6 ข้อต่อไปนี้ ในการใช้ภาษาอังกฤษหรือไม่
? |
1.
รู้ศัพท์ รู้ไวยากรณ์ แต่ยังแต่งเป็นประโยคได้ไม่ดี
2.
นึกไม่ออกว่าจะใช้คำอะไรมาเชื่อมประโยค
3.
ตอบ e-mail หรือตอบจดหมายภาษาอังกฤษแต่ละฉบับใช้เวลานานมาก
4.
ไม่มั่นใจว่าเขียนได้ดี
5.
ไม่แน่ใจว่าใช้คำศัพท์ได้ถูกต้อง
บางครั้งมั่นใจว่าเขียนถูกแล้ว แต่ความจริงใช้ศัพท์ผิดมาตลอดโดยไม่รู้ตัว
6.
แต่งประโยคได้ถูกหลักไวยากรณ์ แต่ขาดความเป็นธรรมชาติไม่เหมือนที่เจ้าของภาษาใช้
ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้ เพราะคนไทยที่ศึกษาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง
จะประสบปัญหาเช่นนี้เกือบทุกคน แล้วคุณจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร?
| เหตุใดจึงแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้ไม่ดี
และเขียนได้ไม่เหมือนเจ้าของภาษา
ทั้งๆ ที่รู้ศัพท์และไวยากรณ์? |
ที่เป็นเช่นนี้
เพราะการศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศไทยตามหลักสูตรที่สอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
ผู้สอนส่วนใหญ่จะเน้นให้พวกเราจดจำเฉพาะหลักไวยากรณ์
และข้อยกเว้นต่างๆ รวมทั้งฝึกให้ท่องจำศัพท์เป็นคำๆ
โดยลืมนึกถึงความจริงที่ว่า
คำศัพท์ในภาษาอังกฤษส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็นคำๆ
โดยลำพังไม่ได้
คำศัพท์แต่ละคำจะต้องมีศัพท์เฉพาะที่เจ้าของภาษากำหนดให้ใช้ร่วมกันเป็นกลุ่มคำในการผูกประโยค
จึงจะเกิดความหมายที่ต้องการสื่อ
จะใช้ศัพท์อื่นแทนไม่ได้ถึงแม้จะมีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ศัพท์บางคำยังต้องจัดเรียงให้ถูกตำแหน่ง
จะวางสลับกันไม่ได้ ภาษาอังกฤษเรียกกลุ่มคำที่ต้องใช้ร่วมกัน
และการจัดเรียงคำในประโยคว่า "Collocation"
ดังนั้น
การเน้นให้ท่องจำศัพท์เป็นคำๆ มากๆ
อย่างที่เคยฝึกฝน จึงไม่ส่งผลในการเรียนภาษาอังกฤษมากเท่ากับฝึกให้จดจำศัพท์ที่ปรากฎเป็นกลุ่มคำ
(Collocations) ศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป
มีเพียง 4,000 คำ แต่ Collocations
หรือกลุ่มคำศัพท์ที่ใช้ร่วมกับศัพท์
4,000 คำนี้ มีมากถึงเกือบ 100,000
Collocations และหากเรารู้ Collocations
100,000 Collocations ก็เท่ากับว่าเราสามารถแต่งประโยคที่ถูกต้องได้มากมายนับไม่ถ้วน
|