Collocation
: ต้นเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเขียนและพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้มาตรฐาน |
ในการเรียนการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
พวกเราจะถูกสอนอยู่เพียง 2 ส่วนคือ
คำศัพท์ (Vocabulary) และไวยากรณ์
(Grammar) แต่ความจริงแล้ว องค์ประกอบที่สำคัญในการแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
มี 3 ส่วน คือ
หากคุณเห็นองค์ประกอบ
3 ส่วนนี้แล้ว คุณคงจะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเราจึงแต่งประโยคภาษาอังกฤษกันไม่ได้หรือแต่งได้ไม่ดี
แม้จะรู้ศัพท์และไวยากรณ์ นั่นเป็นเพราะว่า
Collocations ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญถูกละเลยไม่ได้รับความสำคัญในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
ทั้งๆ ที่ Collocations ถูกใช้ในการเขียนภาษาอังกฤษมากถึง
60-80% และถูกใช้ในการพูด 20-40%
คำว่า
Collocation มาจากคำภาษาอังกฤษ 2
คำ คือ col
(to do something with something
or someone) + location
มีคำแปลภาษาไทยว่า "คำปรากฏร่วม"
อธิบายความหมายให้ชัดเจนขึ้นก็คือ
Collocation เป็นการเชื่อมคำ การจัดวางคำ
หรือกลุ่มคำ (รวมทั้ง idioms) ที่จำเป็นต้องใช้ร่วมกันในประโยคต่างๆ
ที่เจ้าของภาษานิยมใช้ และเห็นว่าถูกต้องตามมาตรฐาน
ซึ่งคำที่ใช้ร่วมกันนั้น จะใช้คำอื่นแทนหรือสลับตำแหน่งกันไม่ได้
ถึงแม้ว่าคำที่จะใช้แทนจะมีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันก็ตาม
ตัวอย่างเช่น :
The cloth has fast
colour. (ผ้าสีไม่ตก)
เราจะทราบกันโดยส่วนใหญ่ว่า fast
แปลว่า "เร็ว"
คำว่า stable หรือ durable ซึ่งแปลว่า "ทนทาน" น่าจะใกล้เคียงกว่า
แต่เจ้าของภาษาไม่ใช้คำว่า stable colour หรือ durable colour
ดังนั้นจึงต้องใช้คำว่า fast colour
เท่านั้น คำว่า fast colour เป็น
collocation
It rains cats and
dogs.(ฝนตกหนัก)
คำว่า cats and dogs เป็น collocation
เราไม่สามารถ เขียนเป็น dogs and cats หรือ cats and cows ได้
คำว่า strong กับ
powerful มีความหมายใกล้เคียงกัน
แต่ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า strong wind, strong competition
และ powerful machine, powerful engine,
powerful weapon
เราไม่สามารถใช้ strong machine หรือ powerful wind ได้
ตัวอย่างคำทั้งหมดนี้เป็น
collocations
จากตัวอย่างจะเห็นว่า Collocation
นั้นไม่เกี่ยวกับหลักไวยากรณ์ เพราะบางกลุ่มคำถึงแม้จะวางสลับตำแหน่ง
หรือใช้คำไม่ถูก ก็ไม่ผิดไวยากรณ์แต่ประการใด
แต่การใช้ Collocation ผิด จะทำให้เจ้าของภาษาหรือผู้ที่รู้ภาษาอังกฤษมากๆ
ทราบได้ทันทีว่า เราเป็นคนต่างชาติและใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้มาตรฐาน
ซึ่งความไม่ได้มาตรฐานนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตนเอง
และองค์กรที่เราสังกัด ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ
ทำให้คนที่ติดต่อกับเราเกิดความไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถสื่อสารกับเขาเป็นภาษาอังกฤษด้วยความเข้าใจที่ตรงกันได้หรือไม่
เพราะการใช้ Collocation ผิดอาจทำให้ความหมายผิดไปด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษได้จัดให้
Collocation เป็นสิ่งที่ยากที่สุดสิ่งหนึ่งสำหรับคนไทยและคนต่างชาติที่ศึกษาภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง
และมีเพียง 2
วิธีเท่านั้น ที่ทำให้เราสามารถรู้
Collocations ได้มากๆ
|
Harold E.
Palmer
ผู้แต่งหนังสือชื่อ "A Grammar of English Words" (1949) |
ได้เขียนไว้ในคำนำหน้า
iii-iv ว่า
"ข้อผิดพลาดส่วนใหญ่ในการเขียนเรียงความภาษาอังกฤษของนักศึกษาต่างชาตินั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องคำศัพท์....
มีคำศัพท์ในภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยประมาณ 1,000 คำ ที่ไม่เคยก่อความยุ่งยากในการใช้แก่ผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
แต่กลับสร้างปัญหาให้กับนักศึกษาต่างชาติ และเป็นเครื่องกีดขวางไม่ให้นักศึกษาต่างชาติใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ คำศัพท์เหล่านี้ "ยาก" เนื่องจากสาเหตุหลายประการ
ได้แก่
1. คำศัพท์แต่ละคำทำหน้าที่ได้มากกว่า 1 ประเภท . . .
2. คำศัพท์แต่ละคำอาจมี Collocations ได้มากมายหลายแบบ . . ."
Della Summers
บรรณาธิการอำนวยการของพจนานุกรม
Longman Language Activator -
The World's First Production
Dictionary (1993, p.8) |
ได้กล่าวถึง Collocations
ในพจนานุกรมเล่มนี้ว่า
"นักศึกษาจะแสดงความจำนงอยู่เสมอถึงความจำเป็นที่ต้องมีพจนานุกรมที่สามารถบอกพวกเขาได้ว่า
ศัพท์คำใดที่ถูกต้องสำหรับข้อความนั้นๆ วลีใด หรือ Collocations ใดที่จะช่วยให้พวกเขาพัฒนาความสามารถในการสื่อสิ่งที่พวกเขาต้องการสื่อ"
A.P. Cowie,
University of Leeds |
ได้เขียนไว้ในบทนำของ
Oxford Advanced Learner's Dictionary of Current English by A.S. Hornby, Fourth
Edition (1995, p. vii ) ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Collocations ไว้ว่า
"เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่ Oxford University Press ได้จัดพิมพ์ Advanced
Learner's Dictionary ของ A.S. Hornby ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งนับเป็นผลงานบุกเบิกอันโดดเด่นที่เกิดจากการวิจัยอันละเอียดลึกซึ้งในแง่มุมต่างๆ
ของการใช้ภาษาอังกฤษ รวมทั้งโครงสร้างประโยค และ Collocations อันเป็นที่รู้กันดีว่า
สร้างความยากลำบากให้กับนักศึกษาชาวต่างชาติ"
พจนานุกรม
"The Oxford Companion To The English Language" ปี 1992 |
ได้ระบุความสำคัญของ
Collocations ไว้ในหน้า 231 - 232 ว่า
"Collocations เป็นพื้นฐานของภาษา ที่ผู้ศึกษาจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงความละเอียดอ่อนของมัน
เพราะความผิดพลาดในการจัดเรียงคำในการเขียนภาษาอังกฤษจะเป็นเครื่องบ่งชี้ที่สำคัญถึงความเป็นคนต่างชาติ"
|